นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

เรียน ผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน

ในปี 2565 ที่ผ่านมา สถานการณ์ทางเศรษฐกิจโลก ภูมิภาคเอเชีย และประเทศไทย ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่ยังไม่ฟื้นตัว และได้รับผลกระทบเพิ่มเติมจากสงครามระหว่างรัสเซีย และยูเครน ส่งผลให้ระบบเศรษฐกิจทั่วโลกเกิดปัญหา ราคาน้ำมันพุ่งสูงขึ้น ต้นทุนการผลิตและการบริการสูงขึ้น ความผันผวนของค่าเงินบาทต่อสกุลดอลลาร์สหรัฐ และภาวะเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้น องค์ประกอบต่างๆ เหล่านี้ทำให้ต้นทุนในการทำธุรกิจสูงขึ้นตามไปด้วย ผู้ประกอบการบางรายทั้งในประเทศ และต่างประเทศต้องชะลอการขยายกิจการเพราะกังวลเรื่องความเสี่ยง ส่งผลกระทบต่อผู้ผลิตในห่วงโซ่อุปทาน ผู้บริโภคเองก็จำเป็นต้องใช้จ่ายอย่างระมัดระวัง จึงเป็นผลให้ตัวเลขเศรษฐกิจไทยขยายตัวเพียง 2.6% ในปี 2565

สำหรับ “คิวทีซี” เป็นบริษัทหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ทั้งสอง อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้นทุนวัตถุดิบหลักในการผลิตที่จำเป็นต้องนำเข้าจากต่างประเทศสูงขึ้น เช่น เหล็กซิลิกอน ทองแดง และค่าขนส่ง ตลอดจนความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนทางการเงิน ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นตาม ในขณะที่การขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม และการก่อสร้างของภาคอสังหาริมทรัพย์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ รวมถึงการลงทุนของภาครัฐยังชะลอตัวอยู่ จึงทำให้มีการแข่งขันค่อนข้างสูงในตลาดหม้อแปลงไฟฟ้า ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ “คิวทีซี”

อย่างไรก็ดี ”คิวทีซี” ได้ดำเนินการทุกอย่างด้วยความระมัดระวังผ่านกระบวนการบริหารความเสี่ยง และได้รับความร่วมมือจากพนักงาน ความเป็นมืออาชีพของทีมบริหาร และความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่ายที่ยังคงเชื่อมั่นในตราสินค้า และบริการของเราเสมอมา ซึ่งผลประกอบการ ณ สิ้นปี (เฉพาะกิจการ) มีรายได้จากการขายและบริการ 1,164.57 ล้านบาท เติบโตจากปี 2564 คิดเป็นร้อยละ 12.14 ส่วนกำไรสุทธิลดลงจากปี 2564 ร้อยละ 0.69 หรือมีกำไรสุทธิร้อยละ 8.38 ต่อยอดขาย สำหรับผลประกอบการในงบรวมกิจการมีรายได้รวม 1,216.45 ล้านบาทเติบโตจากปี 2564 ร้อยละ 3.79 ส่วนกำไรสุทธิลดลงจากปี 2564 กว่าร้อยละ 80 อันเนื่องมาจากการปรับปรุงผลขาดทุนจากการด้อยค่าของที่ดิน อาคารและอุปกรณ์ค่าบริการเชื่อมต่อโครงข่ายกระแสไฟฟ้า และสัญญาขายไฟฟ้า รวมถึงการตัดรายการสินทรัพย์ภาษีเงินได้รอการตัดบัญชีในงบการเงิน

ด้วยสถานการณ์การสู้รบในสงครามรัสเซีย – ยูเครน ยังไม่มีสัญญาณว่าจะยุติเมื่อไหร่ และจะมีมาตรการคว่ำบาตรอย่างไรเพิ่มเติมจากฝั่งสหรัฐอเมริกาและพันธมิตร ซึ่งหากยังมีความยืดเยื้อย่อมจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ดังนั้นในปี 2566 จะเป็นอีกหนึ่งปีที่ท้าทายความสามารถของ QTC แต่พวกเราจะยังคงไว้ซึ่งความมุ่งมั่นในการพัฒนาหม้อแปลงไฟฟ้าซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ ให้มีคุณภาพและคุณสมบัติทางไฟฟ้าสูงกว่าหรือเทียบเท่ามาตรฐานสากล โดยเน้นการผลิตสินค้าที่สามารถลดการใช้พลังงานไฟฟ้า ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าให้กับลูกค้าได้ในระยะยาว พร้อมจัดหาอุปกรณ์ด้านพลังงานไฟฟ้าด้านอื่น เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างครบวงจร โดยคาดหวังว่ากลุ่มบริษัทจะยังคงแข็งแกร่งและยังคงเติบโตขึ้นได้เกินร้อยละ 10 จากปี 2565

ในด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร บริษัทฯ ยังคงให้ความสำคัญต่อการพัฒนาบุคลากร และส่งเสริมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล (ESG : Environment , Social, Governance)

ด้านสิ่งแวดล้อม (E : Environment) โดยการส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมสีเขียว “Green Couture” ในองค์กรผ่านกระบวนการทำงาน และนวัตกรรมในด้านต่างๆ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯ ได้กำหนดเป้าหมายองค์กรสู่การเป็น Carbon Neutrality ภายในปี 2578 และ Net Zero ภายในปี 2593 ซึ่งมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเครื่องมือเครื่องจักร ยานพาหนะ เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ฯลฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และเพื่ออนาคตของชนรุ่นหลังในสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี

ด้านสังคม (S : Social) นอกจากนี้ยังส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย “Safety Couture” อย่างต่อเนื่อง ในปี 2565 จำนวนการเกิดอุบัติเหตุลดลงจากปี 2564 กว่าร้อยละ 22 เป็นผลมาจากความเอาจริงเอาจังในการดำเนินการตามมาตรการความปลอดภัย พร้อมกับมาตรการส่งเสริมในด้านต่าง ๆ เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุ โดยบริษัทฯ ยังคงไว้ที่เป้าหมาย Zero Accident และยังคงให้ความสำคัญในด้านการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน โดยในปี 2565 ได้จัดกิจกรรม “เสวนาประชาคม ชุมชนพบ คิวทีซี” ขึ้น ซึ่งมีตัวแทนชุมชน และหน่วยงานราชการในพื้นที่เข้าร่วมพูดคุย เพื่อค้นหาความต้องการที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคม จากการหารือร่วมกันมีโครงการที่อยู่ในความสามารถของ “คิวทีซี” ที่จะช่วยสนับสนุนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคของการศึกษา ที่จะนำมาจัดทำโครงการร่วมกัน และดำเนินการต่อในปี 2566

ด้านธรรมาภิบาล (G : Governance) ส่งเสริมการปฏิบัติที่เป็นเลิศและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในด้านนี้ ผู้บริหารทุกคนต้องเป็นแบบอย่างที่ดี พนักงานทุกคนต้องอยู่ในหลักปฏิบัติที่กำหนด ซึ่งเป็นพันธะร่วมกันอย่างเคร่งครัด การดำเนินงานทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน ทั้งนี้ พวกเราตระหนักดีว่า การให้ความสำคัญ และลงมือทำจริงทั้ง 3 ด้าน ESG : Environment , Social, Governance ไปพร้อมๆ กันด้วยความรับผิดชอบ จะส่งผลให้บริษัทฯ เติบโตได้อย่างยั่งยืน

สุดท้ายนี้ในนามของคณะกรรมการฯ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ใคร่ขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า ประชาชนทั่วไปในชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ที่ให้การสนับสนุนและเป็นกำลังใจให้บริษัทด้วยดีตลอดมา พวกเราขอให้คำมั่นว่า จะดำเนินการตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ได้ให้ไว้ และจะมุ่งมั่น ทุ่มเท ในการพัฒนากระบวนการ เครื่องมือ เครื่องจักร และทุนมนุษย์ให้สามารถยืนอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และสังคม ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน