นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

นายพูลพิพัฒน์ ตันธนสิน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร

เรียน ผู้มีส่วนได้เสียทุกท่าน

ในปี 2567 ที่ผ่านมาสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลกและประเทศไทยมีการเติบโตเพียงเล็กน้อยและเกิดการขัดแย้งทางการเมืองและทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายๆ ประเทศ ส่งผลกระทบทั่วโลกก็ตาม แต่การลงทุนพัฒนาในโครงสร้างพื้นฐานในประเทศและต่างประเทศยังคงเดินหน้าอย่างต่อเนื่อง จากการใช้พลังงานสะอาดและพลังงานทดแทนอื่นๆ เพิ่มขึ้น ทำให้การขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด และการกำหนดมาตรการต่างๆ ของแต่ละประเทศเพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย Net Zero Emission ส่งผลให้มีการลงทุนในภาคเอกชนในการปรับตัวเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง จากสถานการณ์ต่างๆ นี้ เป็นผลดีต่ออุตสาหกรรมหม้อแปลงไฟฟ้า และพลังงานทดแทน โดยในทุกการขยายตัวของโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงาน และการลงทุนด้านพลังงานทดแทนย่อมมีความต้องการใช้หม้อแปลงไฟฟ้า หรือต้องการใช้ผลิตภัณฑ์และบริการด้านพลังงานทดแทนเพิ่มขึ้นตามการเติบโตซึ่งจะทำให้การขยายตัวด้านพลังงานเติบโตไปด้วย

สำหรับ “คิวทีซี" ได้ใช้โอกาสจากสถานการณ์ดังกล่าวในการขับเคลื่อนองค์กรอย่างระมัดระวัง ซึ่งเป็นความท้าทายที่สำคัญในปี 2567 เรามีการลงทุนในธุรกิจด้านพลังงานโดยได้เปิดบริษัท คิวทีซี อาร์อี จํากัด ดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจําหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านพลังงานสะอาดครบวงจรในประเทศไทย ภายใต้แบรนด์ชั้นนําของโลก บริษัท คิวทีซี อีวี จำกัด ดำเนินธุรกิจลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานระบบชาร์จเพื่อขับเคลื่อนการขนส่งด้วยพลังงานไฟฟ้าทั่วประเทศ โดยใช้กลยุทธ์ที่สำคัญคือการสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรทางการค้า ในการขยายการเติบโตของธุรกิจให้มีความมั่นคงและยั่งยืน สำหรับธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้ายังคงเป็นธุรกิจหลักของ คิวทีซี และยังมีโอกาสในการเติบโตตามการขยายตัวของการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน และการลงทุนด้านพลังงานทดแทน นอกจากนี้ความต้องการหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง ลดการใช้พลังงาน และหม้อแปลงอัจฉริยะ เริ่มมีความต้องการเพิ่มมากขึ้น ซึ่ง คิวทีซี ได้มีการวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์อย่างต่อเนื่องพร้อมตอบสนอง ความต้องการของลูกค้าได้ครบถ้วน

ภาพรวมผลประกอบการในปี 2567 บริษัทมีรายได้รวมจากการดำเนินธุรกิจ 1,542.52 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 13.34 มีกําไรสุทธิ 112.69 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2566 ร้อยละ 68.47 อันเป็นผลมาจากการบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพในทุกๆ ด้านของทีมบริหาร และพนักงานทุกคนในองค์กร ก้าวต่อไปของคิวทีซี จะยังคงเดินหน้าขยายการลงทุนในธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้าเพื่อรองรับการเติบโตของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานและการลงทุนในธุรกิจพลังงานสะอาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ และยังคงหาโอกาสในการลงทุนในธุรกิจอื่นๆ เพื่อให้บริการด้านพลังงานครบวงจรตามวิสัยทัศน์องค์กรที่ให้ไว้ต่อไป

ในด้านการบริหารจัดการภายในองค์กร บริษัทฯ ยังคงให้ความสาคัญต่อการพัฒนาบุคลากร และส่งเสริมการปฏิบัติที่เป็นเลิศ ด้านสิ่งแวดล้อม ด้านสังคม และด้านธรรมาภิบาล (ESG : Environment, Social, Governance)

ด้านสิ่งแวดล้อม (E : Environment) ได้ส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมสีเขียว “Green Culture" ในองค์กรผ่านกระบวนการทำงาน และนวัตกรรมในด้านต่างๆ เพื่อลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯ ได้ประกาศเป้าหมาย Carbon Neutrality ภายในปี 2578 และ Net Zero ภายในปี 2593 ซึ่งมีความจําเป็นอย่างยิ่งที่พวกเราจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ปรับปรุงกระบวนการทำงาน และเครื่องมือ เครื่องจักร ยานพาหนะ เพิ่มการใช้พลังงานสะอาด ฯลฯ เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย และเพื่ออนาคตของชนรุ่นหลังในสิทธิที่จะมีชีวิตอยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดี โดยในปี 2567 บริษัทได้รับการรับรองสมาชิกภาพภายใต้เครือข่ายคาร์บอนนิวทรัลประเทศไทย ประเภท “องค์กรผู้นําด้านการจัดการก๊าซเรือนกระจก" (Climate Action Leading Organization: CALO) ซึ่งเป็นก้าวสำคัญที่จะทำให้ประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่ได้ประกาศไว้

ด้านสังคม (S : Social) ได้ส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมด้านความปลอดภัย "Safety Culture" อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นความเสี่ยงสำคัญต่อ “คิวทีซี” ในปี 2567 จำนวนครั้งของการเกิดอุบัติเหตุลดลงจากปี 2566 เพียงเล็กน้อย และแนวโน้มของความรุนแรงของการเกิดอุบัติเหตุลดลง ทั้งนี้ จากการวิเคราะห์สาเหตุจากคณะกรรมการความปลอดภัยพบว่าอุบัติเหตุส่วนใหญ่เกิดจากความประมาทของผู้ปฏิบัติงาน และส่วนหนึ่งจากสภาพแวดล้อมที่ไม่ปลอดภัย ซึ่งเป็นประเด็นที่ผู้บริหาร และคณะกรรมการ ของบริษัทฯ ให้ความสำคัญและห่วงใย และยังคงไว้ที่เป้าหมาย Zero Accident ต่อไป ในปีที่ผ่านมาบริษัทฯ สนับสนุนการสร้างสุขภาวะองค์กร เพื่อให้พนักงานมีความสุขในการทำงาน และส่งเสริมการปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชน จนได้รับรางวัล “องค์กรสุขภาวะคุณธรรมภาคเอกชน ประจำปี 2567" และรางวัล “องค์กรต้นแบบด้านสิทธิมนุษยชน ปี 2567 ประเภทองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ระดับชมเชย" ตามลำดับ นอกจากนี้ยังคงให้ความสำคัญในด้านการมีส่วนร่วมพัฒนาชุมชน โดยในปี 2567 ได้จัดกิจกรรม "เสวนาประชาคม ชุมชนพบ คิวทีซี" ขึ้นเป็นปีที่ 11 ซึ่งมีตัวแทนชุมชน และหน่วยงานราชการในพื้นที่เข้าร่วมพูดคุย เพื่อค้นหาความต้องการที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมและสังคม จากการหารือร่วมกันมีโครงการที่อยู่ในความสามารถของ "คิวทีซี" ที่จะช่วยสนับสนุนซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในภาคของการศึกษาที่จะนํามาจัดทำโครงการร่วมกัน และดำเนินการต่อในปี 2568 ส่วนการดำเนินงานในปี 2567 ส่งผลให้การประเมิน Community engagement อยู่ในระดับ 100%

ด้านธรรมาภิบาล (G : Governance) ได้ส่งเสริมการปฏิบัติที่เป็นเลิศและให้ความสำคัญอย่างยิ่งในด้านนี้ ผู้บริหารทุกคนต้องเป็นแบบอย่างที่ดี พนักงานทุกคนต้องอยู่ในหลักปฏิบัติที่กำหนด ซึ่งเป็นพันธะร่วมกันอย่างเคร่งครัด การดำเนินงานทุกอย่างต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อสร้างความไว้วางใจจากผู้มีส่วนได้เสียรอบด้าน โดยในปี 2567 ไม่มีข้อร้องเรียน หรือการแจ้งเบาะแสเกี่ยวกับการละเมิดจรรยาบรรณธุรกิจที่ได้รับรายงาน และรับรางวัล “Investors' Choice Award ประจำปี 2567” ซึ่งสะท้อนถึงการยกย่องบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่มีผลการดําเนินงานดีเด่นในการจัดการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีติดต่อกันมายาวนานต่อเนื่องถึง 10 ปี ภายใต้การกำกับดูแลกิจการที่ดี และ การดำเนินธุรกิจอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส การเปิดเผยข้อมูลต่างๆ แก่ผู้ถือหุ้นอย่างครบถ้วน โดยรักษามาตรฐานที่ดีในการดำเนินธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตบนพื้นฐานของความยั่งยืน

ทั้งนี้ พวกเราตระหนักดีว่า การให้ความสำคัญ และลงมือทำจริง ทั้ง 3 ด้าน ESG : Environment, Social, Governance ไปพร้อมๆ กับการเติบโตทางธุรกิจด้วยความรับผิดชอบ จะส่งผลให้บริษัทฯ และผู้มีส่วนได้เสียที่เกี่ยวข้องเติบโตร่วมกันได้อย่างยั่งยืน

สุดท้ายนี้ในนามของคณะกรรมการฯ ผู้บริหาร และพนักงานทุกคน ใคร่ขอขอบพระคุณท่านผู้ถือหุ้น ลูกค้า คู่ค้า ประชาชนทั่วไปในชุมชน และผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ที่ให้การสนับสนุนและเป็นกําลังใจให้บริษัทด้วยดีตลอดมา พวกเราขอให้คํามั่นว่า จะดำเนินการตามวิสัยทัศน์ พันธกิจ และกรอบการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่ได้ให้ไว้ และจะมุ่งมั่น ทุ่มเท ในการพัฒนา กระบวนการผลิต เครื่องมือ เครื่องจักร และทุนมนุษย์ให้สามารถยืนอยู่ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ และสังคม ได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน