ภาพรวมการประกอบธุรกิจ

บริษัท คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้าตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใต้เครื่องหมายการค้า “QTC” และเครื่องหมายการค้าของลูกค้า โดยปัจจุบัน บริษัทฯ ได้ขยายธุรกิจออกไป โดยแบ่งเป็น ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า และธุรกิจโซลาร์ และการขยายธุรกิจออกไปในกลุ่มธุรกิจพลังงาน

ธุรกิจหม้อแปลงไฟฟ้า

ผลิตภัณฑ์หม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทฯ สามารถแบ่งได้เป็น

  1. หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่าย (Distribution Transformer)
    1.1 หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายแบบน้ำมันชนิดปิดผนึก (Hermetically Sealed Oil Type Distribution Transformer)
    1.2 หม้อแปลงไฟฟ้าระบบจำหน่ายแบบน้ำมันชนิดเปิด (Open Type with Conservator)
  2. หม้อแปลงไฟฟ้าระบบกำลัง (Power Transformer)
  3. หม้อแปลงไฟฟ้าแบบแห้ง (Cast Resin Transformer)
  4. Super Low Loss Transformer (Amorphous Metal Distribution Transformer : AMDT)
  5. หม้อแปลงไฟฟ้าชนิดพิเศษ (Special Transformer) จะออกแบบและผลิตตามการใช้งานและคุณสมบัติที่ลูกค้าต้องการเช่น Earthing Transformer, Unit Substation , Pad mounted เป็นต้น
  6. การให้บริการด้านต่าง ๆ แก่ลูกค้า เช่น งานตรวจสอบเช็คสภาพและบำรุงรักษาตามกำหนดเวลางานซ่อมแซมและบำรุงรักษาหม้อแปลง งานบริการเติมน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า งานบริการเช่าหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นต้น เพื่อรองรับความต้องการและอำนวยความสะดวกให้แก่ลูกค้าทั้งที่เป็นลูกค้าที่ซื้อหม้อแปลงไฟฟ้า QTC และลูกค้าทั่วไป

ธุรกิจโซลาร์

  1. บริษัท เป็นตัวแทนจำหน่ายโซลาร์เซลล์ ให้กับ LONGI Solar ซึ่งเป็นแผงโซลาร์ฯ Tier 1 ที่ได้รับการยอมรับว่าดีที่สุดด้วยโมดูลเซลล์แสงอาทิตย์แบบ Half-Cut Technology ที่มอบการทำงานประสิทธิภาพสูงสุดถึง 98% และยังสามารถสร้างพลังงานได้สูงขึ้นแม้ในภาวะแสงน้อย และสามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าออกมาได้ต่อเนื่องยาวนานกว่า 25 ปี และในเร็วๆ นี้ จะมีเปิดตัวแผงโซลาร์เซลล์ ขนาด 540 W เพื่อวางจำหน่ายในประเทศไทยต่อไป จากปัจจุบันมีขนาดสูงสุดถึง 450 W
  2. บริษัท เป็นตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ Huawei Solar Inverter ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์การเปลี่ยนไฟฟ้ากระแสตรง(DC) ให้เป็นไฟฟ้ากระแสสลับ(AC) เพื่อใช้กับแผงโซลาร์เซลล์และแบตเตอรี่ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ

เพื่อสร้างรากฐานให้บริษัทมีการเติบโตอย่างยั่งยืน มีผลประกอบการที่เติบโตขึ้นไปเรื่อย ๆ บริษัทจึงได้จัดตั้งบริษัทย่อยขึ้นมา เพื่อทำธุรกิจเกี่ยวกับโรงไฟฟ้า 2 บริษัทและบริษัทร่วม 1 บริษัท ได้แก่

บริษัท คิวทีซี โกลบอลเพาเวอร์ จำกัด (QTCGP) ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าและพลังงานอื่น ๆ จัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 28 กันยายน 2559 ทุนจดทะเบียน 501.90 ล้านบาท ต่อมา บริษัท QTCGP ได้เข้าซื้อ บริษัท คิว โซลาร์ 1 จำกัด (Q Solar 1) ประกอบธุรกิจผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2552 ทุนจดทะเบียน 220 ล้านบาท บริษัท คิวทีซี โกลบอลเพาเวอร์ จำกัด เข้าถือหุ้น 100% เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2560 และ QTCGP ยังได้จัดตั้งบริษัทลูกอย่าง บริษัท คิวทีซี มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (QTCM) เพื่อดำเนินธุรกิจตัวแทนจำหน่ายหม้อแปลงไฟฟ้า จัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน 2564 ทุนจดทะเบียน 5 ล้านบาท โดย QTCGP ถือหุ้น 100%

บริษัท พีพีดับบลิวอี จำกัด (PPWE) เป็นบริษัทร่วมทุน ประกอบธุรกิจ พลังงาน จัดตั้งบริษัทเมื่อวันที่ 12 มกราคม 2559 ทุนจดทะเบียน 40 ล้านบาท โดย บมจ. คิวทีซี เอนเนอร์ยี่ ถือหุ้น 50% และ บริษัท ยูเอซี เอนเนอร์ยี่ จำกัด ถือหุ้น 50%

นโยบายและเป้าหมายการดำเนินธุรกิจ

บริษัทฯ มีนโยบายและเป้าหมายในการเป็นผู้ผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีคุณภาพสูงระดับสากล (World Class) โดยมุ่งเน้น การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานของหม้อแปลงไฟฟ้าของบริษัทฯ เพื่อผลิตหม้อแปลงไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูง สร้างความเชื่อมั่นและการยอมรับจากลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ บริษัทฯมีเป้าหมายทำรายได้ 1,500 ล้านบาท ภายในปี 2567 เพื่อให้บรรลุเป้าหมายนี้

บริษัทฯ จึงมุ่งเน้นที่จะรักษาฐานลูกค้าเดิม และขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในกลุ่มประเทศ ASEAN บริษัทฯ ได้ยกระดับกระบวนการผลิตให้มีประสิทธิภาพสูงขึ้น เพื่อรองรับการขยายตลาดและการแข่งขัน เพิ่มทีมขายต่างประเทศเพื่อบุกตลาดใหม่ๆ สำหรับด้านการวิจัยและพัฒนา บริษัทฯไม่เคยหยุดนิ่งในการคิดค้นพัฒนาสินค้าใหม่เพื่อสนองตอบต่อความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันบริษัทฯ ได้พัฒนาและผลิต Smart Transformer ที่เป็นนวัตกรรมด้านหม้อแปลงไฟฟ้า และคิดค้นผลิตหม้อแปลงไฟฟ้า Super Low Loss ที่ช่วยประหยัดพลังงาน ช่วยลดภาวะโลกร้อน และเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ทุกกลุ่ม ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีศักยภาพที่แข็งแกร่งสำหรับการแข่งขันในตลาด

บริษัทฯ ได้เห็นความสำคัญของทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า จึงได้ลงทุนด้านบุคลากรโดยมุ่งเน้นการพัฒนาตามแนวทางของทุนมนุษย์ (Human Capital) ที่จะพัฒนาบุคลากรให้เชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ และกลยุทธ์ขององค์กร เพื่อสามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้ โดยในปี 2565 บริษัทมีการปรับโครงสร้างองค์กร และกลยุทธ์ต่างๆ เช่น การปรับกระบวนการขาย กระบวนการผลิตเพื่อลดต้นทุน การปรับปรุงกระบวนการติดตามหนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน ทันต่อเหตุการณ์ หรือทันต่อวิกฤตต่างๆ ที่เกิดขึ้น ด้วยความพร้อมทั้งบุคลากร เทคโนโลยี จึงทำให้บริษัทได้เปรียบในการแข่งขัน และสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า ในการบริหารจัดการองค์กรเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่กล่าวข้างต้น บริษัทฯ ได้ยึดถือหลักการดำเนินธุรกิจภายใต้หลักคิด “คุณภาพแห่งความประณีต” (Quality of Details) ยึดหลักธรรมาภิบาล และหลักจรรยาบรรณธุรกิจ เพื่อให้บริษัทเติบโตได้อย่างยั่งยืน